Home เรื่องเล่าตอนเข้าค่าย ประสบการณ์ ของ นักเรียนจากโรงเรียนชุมพวงศึกษา ที่เข้าค่ายอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ระหว่างวันที่ 1 - 5 สิงหาคม 2557
ประสบการณ์ ของ นักเรียนจากโรงเรียนชุมพวงศึกษา ที่เข้าค่ายอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ระหว่างวันที่ 1 - 5 สิงหาคม 2557
Wednesday, 19 November 2014 01:50

 

 

ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ  วัดวะภูแก้ว

 


แม่เหนื่อยเพื่อคนอื่นทั้งนั้น


          หนูเป็นเด็กดีกับทุกคน “ยกเว้น”  แม่...


          หนูเป็นเด็กเรียนดีมาตั้งแต่ ม.ต้น  เป็นเด็กมารยาทดีกับเพื่อนและครู  แต่กับแม่ไม่เลย  ตอน ม.ต้น  หนูแอบชอบรุ่นพี่ ม.3/1  ตอนนั้นหนูอยู่ ม.2/4  เขาเรียนเก่งมาก  จนทำให้หนูมีแรงฮึดตั้งใจเรียนจนสอบได้ที่ 1  จากที่  30  หนูดีใจมากและเล่าเรื่องของพี่เขาให้แม่ฟังเสมอ   แม่ก็ฟังและก็พูดคุยกับหนู  จนหนูและรุ่นพี่คนนั้นได้ตกลงคบกัน  หนูก็ยิ่งเล่าให้แม่ฟังมากขึ้นทุกวัน  แม่ก็รับฟัง   บ่อยเข้าแม่ก็น้อยใจ  หนูก็มักจะบ่นว่าถ้าน้อยใจแล้วจะถามทำไม  ก็ไม่ต้องมาถามสิ   แม่ก็จะเงียบไป   จนวันหนึ่งที่หนูกับรุ่นพี่คนนั้นเลิกกัน   หนูร้องไห้ทั้งคืนเพราะหนูแอบชอบเขามาตั้งแต่เรียนประถม  มีแต่แม่ที่คอยปลอบหนู  และหนูก็ผ่านช่วงนั้นมาได้  แต่หนูก็ยังชอบพี่เขาอยู่  ไม่เคยคิดจะเลิกชอบเลย


          จนวันที่หนูมาเข้าค่ายคุณธรรมที่วัด  “วะภูแก้ว”  ตอนอบรมวันแรก ๆ  บอกเลยหนูอยากนอน   นั่งสมาธิอะไร หนูไม่นั่งหรอก น่าเบื่อมากสำหรับหนู  จนเกือบถึงขั้นสุดท้ายของการเข้าค่าย  วิทยากรพูดเรื่องแม่ยิ่งทำให้หนูคิดได้หลายเรื่องที่ทำไม่ดีกับแม่   แม่หนูเป็นครูที่มีหนี้หลายล้าน   แม่ไม่ได้ใช้เงินสิ้นเปลืองเลย   แม่กู้เงินเพื่อช่วยไถ่บ้านที่จะถูกยึด   แม้จะรู้ว่าไถ่มาแล้วจะไม่ใช่ของตนเอง   แม่กู้เงินเพื่อดูแลยายที่เป็นอัมพฤกษ์ หนูบ่นเสมอว่าเกิดเป็นลูกครูอะไรจะจนขนาดนี้   แม่ก็คงได้แต่น้อยใจ   ทุกคืนแม่จะทำขนมถึงตี 1-2  เพื่อส่งสวัสดิการโรงเรียน  และทุกเช้าหนูก็ต้องใส่ถุงให้จึงทำให้มาสายทุกวัน  หนูก็จะบ่นเสมอว่าไม่น่าเกิดมาเป็นลูกแม่เลย  แต่วันนี้หนูเข้าใจทุกเรื่องแล้ว   แม่ถามหนูเรื่องพี่คนนั้นเพราะทุกวันหนูไม่คุยกับแม่เลย   แม่จึงต้องหาเรื่องคุยกับหนู แม้จะเป็นเรื่องที่หนูเห็นคนอื่นสำคัญกว่าแม่ และแม่ต้องนั่งทำขนมทุกวันจนดึกก็เพื่อให้เงินหนูไปเรียนวันละร้อย   แม่เหนื่อยทุกวัน เงินเดือนก็ต้องส่งให้ยาย  แม่ไม่เคยสบาย  หนูช่วยงานแค่นี้กลับบ่น  หนูมันแย่จริงๆ ที่ไม่เคยเห็นสิ่งดีๆ ที่แม่ทำให้   หนูอยากกลับบ้านไปขอโทษกับทุกคำพูดแย่ กริยาแย่  หนูรักแม่นะค่ะ


นางสาวอาจรีย์  สุนทร
โรงเรียนชุมพวงศึกษา  ชั้น ม.4/2
เขียนไว้ ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2557

  

 

อยากให้พ่อมีชีวิตที่ดี


          ตอนแรกที่หนูรู้ว่าจะต้องมาเข้าค่ายที่นี่  หนูไม่อยากมาเลย  ไม่รู้จะมาทำไม  หนูเคยผ่านการเข้าค่ายพุทธรรมมาแล้ว  ก็ไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไร กลับมาก็เหมือนเดิม  คิดว่าการมาเข้าค่ายครั้งนี้คงทำให้หนูเสียเวลาเรียนโดยเปล่าประโยชน์  ไหนจะต้องมาเหนื่อยตามงาน   ตามสอบที่โรงเรียนย้อนหลังอีก  ไหนจะต้องเสียเวลาเรียนพิเศษของหนูไป  ด้วยความที่อยู่ ม.6 แล้ว  ก็ต้องมีงานเยอะ ต้องเตรียมตัวเข้าสอบมหาวิทยาลัยอีก


          ก่อนที่หนูจะมาเข้าค่าย  หนูเคยขี้เกียจ  ไม่ชอบเวลาที่แม่บ่น  เวลาแม่บอกให้ทำอะไร  หนูก็จะบอกว่าเดี๋ยวก่อน  เดี๋ยวทำ  พอโดนแม่บ่นก็ไม่พอใจ  หนูเคยโกรธแม่ที่แม่ด่าพ่อ  ทำให้หนูเสียใจ  หนูเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ   แม่กับพ่อเลิกกันตอนหนูอยู่ ม.1 ตอนเด็ก ๆ ภาพที่หนูเห็นประจำคือ ภาพที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน  พ่อตบตีแม่  ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น  มันทำให้หนูเสียใจมาก  พอแม่เลิกกับพ่อ  เราก็ย้ายมาอยู่กับแม่  ในบ้านมีหนู  แม่ และน้อง  ตอนหลังแม่มีแฟนใหม่  แล้วอยู่ด้วยกัน  หนูเกลียดแฟนใหม่แม่เพราะหนูไม่อยากให้แม่มีแฟนใหม่  หนูกลัวว่าเขาจะมาแย่งความรักที่แม่มีให้หนูกับน้องไป  หนูรู้สึกเสียใจจึงไม่อยากอยู่บ้าน  ตอนที่อยู่ กทม.  หนูกลับบ้าน 2-3 ทุ่มทุกวัน  เพราะไม่อยากกลับมาเจอกับเรื่องที่ทำให้หนูเสียใจ  หนูขอแม่เรียนพิเศษตอนเย็นเพื่อเป็นข้ออ้างให้กลับบ้านค่ำได้  ต่อไปขอกล่าวถึงพ่อ  ถึงพ่อจะทำผิดมากแต่ไม่เคยมีสักครั้งที่หนูจะเกลียดพ่อ  เพียงแต่หนูไม่อยากเจอพ่อ   ไม่อยากรับโทรศัพท์พ่อ   เพราะทุกครั้งที่เจอหรือคุยกับพ่อ  จะทำให้หนูคิดถึงภาพในอดีต  ซึ่งทำให้หนูร้องไห้ทุกครั้ง


          หลังจากที่ได้มาเข้าค่ายที่วัดวะภูแก้ว ทำให้จิตใจหนูสงบมากขึ้น  ทำให้ได้คิดอะไรหลายๆ อย่าง  ทำให้รู้ว่าแม่รักหนูมากแค่ไหน  ต่อไปจะไม่ทำให้แม่เสียใจ  จะทำใจยอมรับให้มากขึ้น  จะตั้งใจเรียน จะเชื่อฟังคำสั่งสอนของแม่  กลับไปหนูจะกราบขอโทษแม่ที่ทำให้แม่เสียใจ   ส่วนพ่อ...ใกล้ถึงวันเกิดพ่อแล้ว  หนูจะไปหาพ่อ จะไปกราบพ่อหลังจากที่ไม่ได้กราบเป็น 10 ปี  จะไปทำให้พ่อกลับตัวกลับใจใหม่  หนูรักพ่อ  อยากให้พ่อมีชีวิตที่ดี  ไม่อยากให้พ่อต้องจมกับความทุกข์  หนูต้องทำให้ได้...


นางสาวสุทธิชา  มอไธสง
โรงเรียนชุมพวงศึกษา  ชั้น ม.6/1
เขียนไว้ ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2557

  


 

การตอบแทนคุณที่ดีกว่าการร้องไห้สำนึกผิด


          พอข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าจะได้มาวัดวะภูแก้ว  ข้าพเจ้ารู้สึกเบื่อหน่ายมาก   ไม่อยากมาเลย  มาทำไม ตอน ม.2  ก็ได้มาแล้ว   แล้วเวลานัดมาขึ้นรถก็นัดมาแต่เช้า   พอมาแต่เช้านั่งรถมาวัดก็หลับมาตลอดทาง  ผมเป็นคนแบบชอบตื่นสายทำงานช้า  แต่บ้านของผมเป็นบ้านที่เคร่งในงานบ้านอยู่แล้ว  ผมไม่ค่อยออกจากบ้านสักเท่าไรจึงไม่ค่อยมีเพื่อนใกล้ๆ บ้าน   ผมไม่ค่อยได้เที่ยวและกินเหล้ากับเพื่อน  บางคนคิดว่าชีวิตอย่างผมคงน่าเบื่อเพราะผมอยู่แต่กับหนังสือและงาน  แต่ผมคิดว่ามันไม่น่าเบื่อเลย  บางคนอาจไม่มีโอกาสดีเหมือนผมเพราะบางคนไม่ได้อยู่กับพ่อแม่   กินข้าวพร้อมกันเหมือนผม  บ้านของผมชอบทำอะไรร่วมกัน  ทำอะไรพร้อมเพรียงกันไปหมด  นี่คือวิถีชีวิตที่บ้านของผม


          ตอนมาวัดวันแรก พอก้าวขาลงรถรู้สึกตื่นเต้นมากจึงกระตือรือร้นเป็นพิเศษ  มาถึงก็สวดมนต์ นั่งสมาธิ  จากอารมณ์ที่สนุกสนานกลับเป็นเบื่อหน่ายโดยทันที  อยากกลับบ้านตั้งแต่วันแรกแต่พอเข้าวันที่สามรู้สึกสบายตอนนั่งสมาธิเพราะเพิ่งเข้าสมาธิได้เป็นครั้งแรก   จากนั้น วันต่อๆ มาก็เลยสงบนั่งได้  พอวันที่ 4   อาจารย์ให้ดูหนังแม่คลอดลูก  ผมรู้สึกสำนึกผิดมากแต่ผมไม่ร้องไห้เพราะคิดว่า  “พ่อแม่ทุกคนที่ให้เราเกิดมานั้น  ไม่ต้องการเห็นน้ำตาจากเรา  และน้ำตาไม่มีประโยชน์ต่อพ่อแม่   แต่ร่างกายและจิตใจ  พละกำลังต่างหากที่จะตอบแทนคุณท่านได้  นี้แหละคือสิ่งที่ท่านหวัง”  ที่ผมคิดอย่างนี้  ไม่ได้คิดว่าการร้องไห้ให้กับพ่อแม่นั้นผิด   แต่ทุกคนลองคิดดูสิว่าการร้องไห้ให้พ่อแม่กับการใช้มือทั้งสอง   ขาทั้งสองขยันหมั่นเพียรให้ท่านสิ่งใดมีค่ากว่ากันละครับ   หากเราตั้งใจทำอะไรเพื่อพ่อแม่แล้วต่อให้เป็นสิ่งที่เล็กหรือสิ่งที่ใหญ่   มีคนเห็นหรือไม่มีคนเห็น  ยังไงก็คือตอบแทนคุณ


นายวรวุฒิ  ศรีระกิ่ง
 โรงเรียนชุมพวงศึกษา  ชั้น ม.4/3
เขียนไว้ ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2557

 

  

เมื่อลูกหนีจากพ่อแม่


          เมื่อก่อนมาเข้าค่าย   หนูเคยทำตัวไม่ดี   เมื่อตอนหนูอยู่มัธยมต้น  หนูเคยหนีออกจากบ้านเพราะโกรธพ่อที่พ่อว่าหนูไม่ไปโรงเรียน  ทั้งๆ ที่หนูก็ไปทำงานกับเพื่อน   หนูหนีพ่อกับแม่ไปอยู่บ้านเพื่อนอีกคนหนึ่ง   พ่อกับแม่ก็ตามหา ทั้งโทรตาม  แต่หนูปิดเครื่อง  พ่อกับแม่ขับรถตามหา  ตามไปดูที่ที่คิดว่าหนูไปแต่ก็ไม่เจอ  หนูหนีออกจากบ้านเป็นเวลา 2 เดือน  พ่อกับแม่ตามหาหนูตลอด  จนพ่อกับแม่คิดว่าจะไม่ได้หนูกลับคืนมา   ป้าเล่าให้หนูฟังว่า  ตอนหนูหนีออกจากบ้าน  พ่อกับแม่กินไม่ได้ นอนไม่หลับ  กอดคอกันร้องไห้ทุกคืน  เมื่อหนูได้ยินดังนั้น หนูจึงคิดได้และกลับมาหาพ่อกับแม่   พอกลับมาหาท่าน  ก็ไม่เคยทำให้ท่านชื่นใจ  เรียนก็ไม่เคยตั้งใจเรียน  เกรดก็ต่ำ  งานบ้านก็ไม่เคยช่วย  เถียงท่านตลอด


          พอได้มาเข้าค่ายปฏิบัติธรรมที่วัดวะภูแก้ว  ทำให้หนูคิดได้  หนูสัญญาว่ากลับไปหนูจะไปกราบเท้าพ่อกับแม่  จะบอกรักท่าน  จะถามท่านว่าท่านเหนื่อยไหม   และจะไม่ทำให้ท่านเสียใจอีก  ขอขอบคุณทางโรงเรียนที่จัดมาเข้าค่าย  ขอขอบคุณ ดร.ดาราวรรณ ที่ทำให้หนูคิดได้ ขอขอบคุณที่สอนเรื่องพระคุณของพ่อแม่ค่ะ


นางสาวคณิตา  ตลาดนา
โรงเรียนชุมพวงศึกษา  ชั้น ม.4/5
เขียนไว้ ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2557

 


Last Updated on Wednesday, 19 November 2014 02:09
 

ค้นหา (พิมพ์คำที่ต้องการค้นหา แล้วกดปุ่ม Enter)

ร้านจักรวาลอ๊อกซิเย่น

Banner

น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

Banner

เข้า Facebook ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ วัดวะภูแก้ว

Banner

แห่เทียนพรรษา 2558

Banner

ฐานิยปูชา 2556

Banner

www.thaniyo.net

Banner

ฐานิยปูชา 2555

Banner

เชิญชม วิดีโอ การแสดงธรรมของ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

วัดป่าสาลวัน

Banner

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

palungdham.com

Banner

ฐานิยปูชา 2553

Banner

สำรวจความคิดเห็น

เหตุผล สำคัญที่สุด ในการเข้ารับการอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ?
 

แบบสำรวจความคิดเห็น

วัดวะภูแก้วควรปรับปรุงเรื่องใดมากที่สุด
 

แบบสำรวจ

พระสงฆ์ในทัศนะของท่าน ?
 

โปรดแสดงความคิดเห็นของท่านได้ที่สมุดเยี่ยม

Banner