Home เรื่องเล่าตอนเข้าค่าย ประสบการณ์เด็กนักเรียน ที่เข้าค่ายอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ระหว่างวันที่ 20 - 24 กรกฎาคม 2555
ประสบการณ์เด็กนักเรียน ที่เข้าค่ายอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ระหว่างวันที่ 20 - 24 กรกฎาคม 2555
Saturday, 18 August 2012 04:02

 

 

ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ  วัดวะภูแก้ว

 

เมื่อเดนสังคมได้สำนึก


          มิ้งย้ายมาจากขอนแก่นเมื่อปี 2555   เดือนมิถุนายน   เพื่อเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนครบุรี   มิ้งทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังมาเยอะมากในตอน ม.3

  


          มิ้งอยู่โรงเรียนเอกชนนานาชาติประจำจังหวัดขอนแก่น  ในโรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนที่รวมทั้งเพื่อนดีๆ และเพื่อนเลวๆ   มิ้งคบกับเพื่อนกลุ่มเลว ซึ่งตอนนั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดมาก   มิ้งทำเลวหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะวิวาทในโรงเรียน  หรือนอกโรงเรียน   แต่งตัวผิดระเบียบ  โดดเรียน  นอนหลับในห้องเรียน  เถียงอาจารย์  หรือแม้กระทั่งขโมยข้อสอบ Final คณิตศาสตร์เพิ่มเติม แล้วเอามาแจกเพื่อนๆ ในห้อง   หนีออกจากบ้านหรือแม้กระทำผิดทางกฎหมาย  เช่น  การส่งยาไอซ์ให้เป้าหมายที่ผับแรด   แต่ได้กระทำเพียงครั้งเดียว เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ดึก  และยังเถียงพ่อและแม่   ขโมยเงินพ่อแม่ไปบำเรอความสุขของตัวเอง   ทำให้พ่อและแม่เสียใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง   ทำให้พ่อและแม่ร้องไห้ไม่รู้กี่หนต่อกี่หน  เรียกได้ว่าตอน ม.3 นี้  ไม่ต่างอะไรกับเดนสังคมเลย

  


          เมื่อมาอยู่ ม.4  มิ้งก็คิดได้ว่าเราไม่ควรทำอย่างนั้น  ยิ่งย้อนกลับไปมองตัวเองยิ่งรู้สึกน่าสมเพช   เมื่อได้มาทำสมาธิที่วัดวะภูแก้ว   ก็ทำให้ได้จิตสำนึกมากขึ้น  ในขณะที่มิ้งนั่งสมาธิอยู่นั้น   มิ้งก็ได้เห็นภาพก่อนที่จะเลวเราเคยเป็นคนดี   เรียบร้อย  พูดจาสุภาพขี้อาย   ตอนนั้นพ่อกับแม่ก็ต่างยิ้มและภูมิใจที่มีลูกอย่างมิ้ง   และก็เห็นภาพตอนที่ทำตัวไม่ดี   ทำให้พ่อแม่ผิดหวังและร้องไห้   ทำให้ครอบครัวที่เคยอบอุ่นกลายเป็นไฟ   มิ้งจึงร้องไห้ขณะนั่งสมาธิ   จนถึงยกที่นั่งสมาธิที่ลานธรรม   วันสุดท้าย  (วันจันทร์ที่ 24/07/2555)   มิ้งสามารถนั่งสมาธิได้นานมาก   จิตสงบมาก   นิมิตเป็นภาพรอยยิ้มของพ่อและแม่ยิ้มให้ตลอดเวลาที่ได้ทำสมาธิ   จากนั้นก็รู้สึกว่ามือหายไป  จากนั้น  ขา  ลำตัว  คอ  ก็หายไปตามลำดับ   ตอนที่ทำสมาธินั้นรู้สึกเหมือนตนเองมีแต่หัว  ส่วนร่างกายส่วนอื่นๆ กลายเป็นจุดจางๆ หายไป   ออกจากสมาธิและเดินกลับมาที่ศาลาด้วยจิตที่สงบมาก  เลยไม่ทำให้รู้สึกกลัวอะไรเลยเมื่อต้องเดินกลับมาที่ศาลาคนเดียว


มิ้งฟาห์
ร.ร.ครบุรี      ชั้น/ห้อง      ม.4/3
วันที่  24 ก.ค. 2555

  

 


กลัวเป็นเปรต


          ผมไม่ชอบการเข้าวัดสักเท่าไร    คิดว่ามาทำไม  มาก็งั้น ๆ แหละ  วันต่อมา  ผมทำกระจกของหอพักผมพังไปทั้งหมด 7 บาน   ตอนนั้นผมไม่เสียใจเลยเพราะผมไม่ได้ตั้งใจทำ  เพราะผมกำลังหยอกเล่นกับเพื่อน   ผมเพิ่งมารู้ในวันที่ 3 ว่า การทำของสงฆ์พังและการขโมยของสงฆ์นั้นจะทำให้ไปเป็นเปรต   ตอนนั้นแหละผมกลัวมากจนผมต้องเอาเงินเกือบทั้งหมดมาใช้หนี้สงฆ์ และเพื่อนผมก็ช่วยไม่ให้ผมเป็นเปรตเพราะว่าช่วยกันออกเงินคนละ 5 บาท  10 บาท   ก็ว่ากันไป


          พอมาวันที่ 4  คือการปฏิบัติครั้งสุดท้าย   ผมตั้งใจมากโดยเฉพาะตอนเย็นนั้น   ผมชอบขึ้นไปบนอุทยานธรรมมากเพราะว่าอากาศดีมาก     ถ้ามีโอกาสผมจะชวนพ่อแม่เพื่อนมาอีกมาสักการะบูชาหลวงปู่พุธ ฐานิโยครับ

นายชลิต  กระจงกลาง
ร.ร.ครบุรี   ชั้น/ห้อง    ม.4/6
วันที่  23 ก.ค. 2555

  

  

 


ของขวัญวันเกิดที่ประเสริฐสุดสำหรับพ่อกับแม่


          ก่อนที่หนูจะเดินทางมาที่วัดวะภูแก้ว   หนูได้ทำจิตใจให้สบายอยู่แล้วเพื่อที่ตั้งใจจะมาปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้พ่อกับแม่   เพราะวันเกิดพ่อกับแม่หนูไม่ได้อยู่เพราะว่าตรงกับวันที่หนูมาปฏิบัติธรรม  คือ วันที่ 22 กรกฎาคม  เกิดวันเดียวกันด้วย   หนูจึงตั้งใจปฏิบัติมากเพื่อทำให้พ่อกับแม่ได้บุญมาก   การมาปฏิบัติทำให้หนูสงบได้เร็วมาก   ทำให้มีสมาธิตั้งมั่น   จิตใจสบาย   แต่ 2  วันแรก คิดถึงแม่มากเพราะหนูกับแม่ตัวติดกันมาก    แม่ของหนูเป็นได้ทุกอย่างสำหรับหนู  ทั้ง เพื่อน, พี่, น้อง  และแม่ ได้ในเวลาเดียวกัน  หนูจึงรักแม่มาก   ข้อคิดที่หนูได้และจำได้หนึ่งข้อคิดที่มาปฏิบัติที่วัดวะภูแก้ว คือ  “คนอื่นเยอะแยะมากมายหาง่าย  แต่พ่อแม่หาได้คนเดียว”  ทำให้หนูคิดได้ว่า  ถึงเราจะมีคนมาบอกว่ารักเรามาก  จะดูแลให้ดี ก็คงจะไม่เท่าความรักความห่วงใยที่พ่อกับแม่มีกับเราหรอก   ตั้งแต่เล็กจนเราโต พ่อกับแม่เหนื่อยมากแค่ไหน  ท่านก็ทำเหมือนกับว่าท่านไม่เคยเหนื่อยเลย   หาข้าวหาน้ำให้เรากิน  อยากได้อะไรท่านก็พยายามหามาให้แม้สิ่งนั้นจะหายากสักปานใด   ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำมา  คือความรักอันมหาศาลหาที่เปรียบเทียบมิได้


แม่   แม่   แม่  คำนี้มีความหมาย        มีพระคุณมากมายหลายสถาน
แม่เป็นได้หลายสิ่งหลายประการ                   เป็นธนาคาร เป็นพระพรหม เป็นร่มไทร
แม่มีแต่คำว่าให้ไม่คิดรับ                   แม่ให้ทรัพย์ ให้วิชา   ให้อาหาร
ให้ชีวิต  ให้ความคิด   ให้วิญญาณ      ใครจะปานแม่ฉันนั้นไม่มี

 

น.ส.สุกัญญา   ลือนาม
ร.ร.ห้วยแถลงพิทยาคม   ชั้น/ห้อง    ม.4/2
วันที่  24  กรกฎาคม  2555

  

  


ค่ายนี้ทำคนให้เป็นคน


           ผมเคยโกรธพ่อ  และน้อยใจพ่อ เพราะพ่อเลิกกับแม่ไปตอนผมอายุ  5 ขวบ  พ่อไม่เคยมาเยี่ยมหรือมาหาผมเลย    เมื่อผมไปขอเบอร์พ่อจากเพื่อนพ่อ      เมื่อผมโทรไปหา    ภรรยาใหม่ของพ่อก็ดันคิดว่าผมโทรไปหาเพื่อจะหวังทรัพย์สิน    จากนั้นมาผมก็เลยไม่ได้ติดต่อกับพ่อ  และเมื่อมีใครมาถามผมว่า    ผมได้ไปหาพ่อไหม     ผมก็จะโกรธคนที่ถามมาก    แต่พอผมได้มาเข้าค่ายที่นี่   ณ  วัดวะภูแก้ว   ผมก็เข้าใจ   ผมก็เลิกโกรธเพราะท่านมีพระคุณมาก    เพราะท่านเป็นผู้ให้กำเนิด   และอย่างน้อยท่านก็เลี้ยงเรามาถึง 5 ปี   เรื่องที่พ่อแม่เลิกกัน   มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา    มันเป็นเรื่องของพ่อกับแม่   เพราะเขาไปด้วยกันไม่ได้  ผมก็อยากจะกลับไปหาพ่อบ้าง    แต่ผมก็รู้สึกไม่กล้า   กลัวว่าแม่ใหม่จะคิดยังไงว่าเราไปหาพ่อ      จากนี้ไปผมคงจะเป็นคนดีขึ้นมาก    ผมคิดอะไรได้หลาย ๆ อย่าง    ค่ายนี้เป็นค่ายที่ดีมาก ๆ  ทำคนให้เป็นคน  มีสติ  มีสมาธิ  ทำให้เด็กขยันขึ้น   ตื่นแต่เช้า   รู้จักเอาชนะความขี้เกียจและความปวดเมื่อย

นายเชาว์วรรธน์   พลสิทธิ
ร.ร.ห้วยแถลงพิทยาคม   ชั้น/ห้อง    ม.4/1
วันที่  24  กรกฎาคม  2555

  

 

ก้าวต่อไปด้วยความดี


          คนเราทำอะไรย่อมได้รับผลเช่นนั้น    หนูรู้เรื่องนี้ดี    แต่อดีตของหนูแม้ว่าหนูจะรู้ดีแต่การกระทำดีนั้นบางครั้งก็ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง   หนูได้อยู่กับแม่มากกว่าพ่อ   เพราะว่าพ่อต้องไปนอนเฝ้าไร่นาเพื่อรดน้ำข้าวโพดทุกวันแต่ท่านก็ยังคอยหาเลี้ยงดูแลหนูมา    แต่หนูอยู่สบายมีแต่กินกับนอนแล้วก็ไปโรงเรียน   ในช่วงไปโรงเรียนนั้น    งานที่ไร่ก็ช่วยบ้างไม่ช่วยบ้าง   แต่หนูรู้ตัวเองอยู่เสมอว่าหนูทำอะไรกับบิดามารดาไว้บ้าง   เวลาหนูอยู่กับแม่หนูรู้สึกเบื่อเวลาที่ท่านบ่นหนูว่าหนู    แต่ชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมดทั้งมวล   หนูใส่ใจแต่กับเรื่องความรัก   เรื่องเพื่อนโดยไม่ได้ใส่ใจไปถึงผู้มีพระคุณเลย   เหมือนกับว่าหนูเอาเพื่อนเป็นใหญ่   คิดแต่ว่าคนอื่นสำคัญ  บอกกับตัวเองเสมอว่าไม่เป็นไร  พ่อแม่เราอยู่ด้วย    เราได้รักได้ใกล้ชิดเวลาท่านบ่นเรา   เราก็คิดว่าท่านไม่รักเรา   บางครั้งก็เถียงตอบพูดตอบไม่ยอมแพ้โดยไม่รู้ว่าถูกหรือผิด    บางครั้งก็โกหกท่านเอาเงินไปเติมโทรคุยกับเพื่อน  คุยกับคนอื่น   พอไปมีปัญหาอะไร   ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพื่อน   มีปัญหาแตกคอกับเพื่อน   หรือปัญหาอื่นๆ   พ่อแม่ก็คอยให้คำปรึกษาสอนทุกเรื่อง   แต่เวลาเรามีความสุข  เรากลับมองเห็นคนอื่นสำคัญกว่าพ่อแม่

  


          ที่ผ่านมาหนูทำไม่ดีกับท่านไว้มาก    แต่พอหนูได้มาที่วัดวะภูแก้วแห่งนี้ทำให้หนูได้เห็นถึงความเป็นธรรม   แม้ว่าทำให้หนูไม่ได้ดีไปหมดทุกอย่าง    แต่สิ่งที่หนูได้รับก็ทำให้หนูมีความคิดที่จะพัฒนาตนเอง ไม่ได้มากก็น้อย  แต่การมาที่นี่เป็นเหมือนสิ่งที่เป็นกำลังใจให้หนูก้าวหน้าต่อไปด้วยธรรมะและความดี   ทำให้หนูได้รู้ซึ้งถึงพระคุณพ่อแม่และความสำคัญอันยิ่งใหญ่ของคำว่าแม่    แม้ที่ผ่านมา   หนูอาจเป็นคนไม่ดี   แต่อย่างน้อยสิ่งที่ดีจะเกิดขึ้นได้เพียงแค่มีสติและเห็นพระคุณของบิดามารดา    ทุกวันนี้หนูอาจจะไม่ใช่คนที่ดีในสายตาของใครบางคน   แต่อย่างน้อยในการที่เรามาวัดวะภูแก้ว  ทำให้รู้ว่าการที่เราจะดีหรือไม่ดี  มันอยู่ที่ใจ ไม่ใช่ความคิดที่ว่าเราจะเป็นคนที่ดีหรือไม่ดีในสายตาคนอื่น

  


          หนูขอฝากกับทุกคนไว้เลยว่า    ความรักใดก็ไม่เท่าความรักของพ่อแม่   พระคุณใดก็ไม่เท่าพระคุณของพ่อแม่   หากเราจะทำอะไรแล้ว   เราไม่นึกถึงพ่อแม่เป็นใหญ่  ความสำเร็จนั้นก็จะไม่เกิดขึ้นได้ค่ะ

  

น.ส.ดวงดาว  ตงกระโทก
ร.ร.ครบุรี  ชั้น/ห้อง    ม.4/5
วันที่  24  กรกฎาคม  2555

  

  


ประสบการณ์หลังการอบรมพัฒนาจิต


           ตอนแรกหนูไม่อยากนั่งสมาธิเลยเพราะมันทรมานมาก   พอวันที่ 2  หนูเริ่มพอนั่งได้นานกว่าวันแรก   วันที่ 3 ก็ยิ่งได้นานกว่าเดิม หนูรู้สึกภูมิใจมาก พอวันที่หนูนั่งนิ่งได้นานกว่าเดิมและคิดว่าในการทำสมาธิครั้งนี้  บุญกุศลคงจะถึงพ่อของข้าพเจ้าซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว   หนูเสียใจมากที่หนูไม่ได้ดูแลท่านเลย เพราะตอนนั้นหนูรู้สึกไม่รักพ่อเลย  เพราะพ่อตีแม่หนูและขู่เอาเงินแม่หนูไปกินเหล้า   หนูเลยไม่ชอบ   ต่อมาแม่กับพ่อก็แยกทางกัน   หนูก็รู้สึกเฉยๆ   ตอนเรียนชั้นประถม หนูโดนเพื่อนล้อว่าลูกไม่มีพ่อ   หนูก็รู้สึกเฉยๆ อีก

  


           อีกประมาณ  5 ปีต่อมาพ่อหนูก็เสียชีวิต   ลุงและป้าส่งข่าวมาให้แม่   ตอนแรกหนูว่าจะไม่ไปเผาศพพ่อ   แต่ว่าแม่บอกว่าไปเผาก็ไม่เห็นเป็นอะไร  หนูก็เลยตัดสินใจไป   ตอนแรกหนูพูดว่าหนูจะไม่ร้องไห้   พอไปเห็นรูปของพ่อก็น้ำตาไหลเพราะย่าเล่าให้ฟังว่าพ่อกำลังเก็บเงินไปหาหนู


           พอหนูได้มาอบรมเข้าค่ายพัฒนาจิตที่วัดวะภูแก้ว  หนูก็เลยคิดได้ว่า   ไม่ว่าพ่อแม่จะเป็นอย่างไร   ท่านก็มีพระคุณต่อเรามาก  ถ้าไม่มีท่านเราก็เกิดไม่ได้   และตอนที่หนูนั่งสมาธิหรือเดินจงกรมหนูก็ภาวนาว่าส่วนบุญส่วนกุศลที่หนูได้ทำนั้น  ขอให้พ่อของหนูได้รับ  และขอให้แม่และผู้ที่เลี้ยงดูหนูมาได้บุญที่หนูได้ทำด้วย

  

น.ส.อริสรา  เนนเลิศ
ร.ร.มัธยมด่านขุนทด   ชั้น/ห้อง    ม.3/3
วันที่  24  กรกฎาคม  2555

  



 

ค้นหา (พิมพ์คำที่ต้องการค้นหา แล้วกดปุ่ม Enter)

ร้านจักรวาลอ๊อกซิเย่น

Banner

น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

Banner

เข้า Facebook ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ วัดวะภูแก้ว

Banner

แห่เทียนพรรษา 2558

Banner

ฐานิยปูชา 2556

Banner

www.thaniyo.net

Banner

ฐานิยปูชา 2555

Banner

เชิญชม วิดีโอ การแสดงธรรมของ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

วัดป่าสาลวัน

Banner

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

palungdham.com

Banner

ฐานิยปูชา 2553

Banner

สำรวจความคิดเห็น

เหตุผล สำคัญที่สุด ในการเข้ารับการอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ?
 

แบบสำรวจความคิดเห็น

วัดวะภูแก้วควรปรับปรุงเรื่องใดมากที่สุด
 

แบบสำรวจ

พระสงฆ์ในทัศนะของท่าน ?
 

โปรดแสดงความคิดเห็นของท่านได้ที่สมุดเยี่ยม

Banner