Home เรื่องเล่าตอนเข้าค่าย พระธาตุ “หลวงตามหาบัว” พยานแห่งการบรรลุธรรม อัศจรรย์แห่งพระผู้เป็น "เนื้อนาบุญ"
พระธาตุ “หลวงตามหาบัว” พยานแห่งการบรรลุธรรม อัศจรรย์แห่งพระผู้เป็น "เนื้อนาบุญ"
Wednesday, 16 March 2011 07:27

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - นับตั้งแต่ พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้ละสังขารไปเมื่อเวลา 03.53 น.ของวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2554 ประชาชนจำนวนมากก็เริ่มทยอยเดินทางมากราบสรีระองค์หลวงตามหาบัว และร่วมทำบุญกับวัดป่าบ้านตาดกันอย่างไม่ขาดสาย จนกระทั่งวันที่ 5 มีนาคม 2554 ก็ได้เกิดปรากฏการณ์คลื่นมหาประชาชนทั้งไทยและเทศ “นับแสนนับล้าน” จากทั่วสารทิศหลั่งไหลมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี กันอย่างเนืองแน่น...
      
       โรงทานกว่า 1,500 โรงที่ตั้งอยู่รอบๆวัด เต็มไปด้วยผู้คนที่ต่อคิวเพื่อขอรับอาหาร ส่วนสถานที่จอดรถได้จัดเตรียมไว้ให้ประชาชนจอดรถ 18 จุดนั้น มีรถโดยสารขนาดใหญ่ ขนาดเล็กและรถยนต์ส่วนตัว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ อปพร. กำนัน และผู้ใหญ่บ้านคอยอำนวยความสะดวกด้านการจัดระเบียบจราจร โดยบางจุดที่ต้องเดินเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ก็มีรถรางคอยรับส่ง
      
       ขณะที่ สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานข่าวเกี่ยวกับพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ออกไปทั่วโลก โดยระบุว่า หลวงตามหาบัวเป็นที่รู้จักกันดีจากการระดมเงินและทองจากประชาชนบริจาคให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อช่วยกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศไทยที่ประสบกับวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540
      
       อย่างไรก็ตาม หลังจากพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว ผ่านพ้นไป จนล่วงถึงเวลาประมาณ 01.00 น. ขณะที่ประชาชนกำลังนั่งสมาธิถวาย ก็ได้เกิดปรากฏการณ์ “อัฐิธาตุหลวงตามหาบัว” ปะทุลอยฟุ้งขึ้นเหนือจิตกาธาน ปลิวละล่องไปทั่วบริเวณ โดยมีลักษณะขาว ใส และหลายหลากสี ทำให้ประชาชนที่เดินทางมาร่วมพิธีต่างพากันหาเก็บอัฐิธาตุที่ปลิวมาตกบริเวณรอบจิตกาธาน เพื่อนำไปบูชาเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ยังมีประชาชนบางส่วนพยายามเก็บดอกไม้ หญ้า และดินในเมรุ ไว้เป็นวัตถุมงคลแก่จิตใจ บางคนนำไม้จิก ไม้จันทน์ เพื่อนำไปบูชาที่บ้านเพื่อเป็นสิริมงคล และจนตลอดทั้งวันประชาชนผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากยังคงค้นหาอัฐิธาตุหลวงตามหาบัวบริเวณรอบจิตกาธานกันอย่างไม่ขาดสาย
      
       นอกจากนี้ ยังมีญาติโยมหลายรายนำผ้าขนหนูชุบน้ำเดินลูบตามบริเวณต่างๆ ใกล้สถานที่พระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว โดยต่างนำผ้าชุบน้ำไปซับบริเวณพื้น กำแพง แม้แต่เต็นท์ผ้าใบที่กางไว้ กระทั่งบางส่วนถึงขนาดนำผ้าชุบน้ำไปเช็ดที่พื้นถนน เพื่อหวังเก็บเศษอัฐิธาตุ หรือเชิงตะกอนของหลวงตามหาบัวไปไว้บูชา
      
       เพราะทุกคนเชื่อว่า เชื่อว่า หลวงตามหาบัวซึ่งเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์นั้นบรรลุธรรมและจะไม่เวียนว่ายตายเกิดตลอดอนันตกาล

พระธาตุ “หลวงตามหาบัว”
       
       ทั้งนี้ ภายหลังการพระราชทานเพลิงสรีระสังขารเสร็จเรียบร้อย “อัฐิธาตุหลวงตามหาบัว” ได้ถูกนำไปเก็บไว้ภายในห้องของหลวงตาที่กุฏิเดิมจนถึงวันที่ 11 มีนาคม จากนั้นคณะสงฆ์จะแบ่งอัฐิธาตุให้วัดป่าต่างๆ ที่มีลูกศิษย์หลวงตามหาบัวดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส นอกจากนี้อัฐิธาตุหลวงตามหาบัวจะถูกแบ่งให้วัดที่ร่วมทำบุญในงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารอีกด้วย
      
       แน่นอน บรรดาลูกศิษย์ลูกหาเชื่อโดยสนิทใจว่า อัฐิธาตุของหลวงตามหาบัวกลายเป็นพระธาตุ ซึ่งนั่นหมายถึงการเป็นพยานแห่งการบรรลุธรรม แต่ก็มีสื่อมวลชนบางฉบับนำเสนอข่าวว่า อัฐิหลวงตาพระมหาบัว “ไม่เป็นพระธาตุ” จนต้องมีการยืนยันจากพระผู้ใกล้ชิดหลวงตามหาบัว ซึ่งเป็นพระ 1 ใน 8 รูปที่ถือกุญแจหีบเก็บอัฐิยืนยันว่า “อัฐิหลวงตามหาบัวเป็นพระธาตุ”
      
       พระสุลาน ปภัสสโร พระลูกวัดป่าบ้านตาด ซึ่งเป็นพระผู้ใกล้ชิดหลวงตามหาบัว และเป็นพระ 1 ใน 8 รูปที่ถือกุญแจหีบเก็บอัฐิหลวงตามหาบัว นำเอาเส้นผมและฟันของหลวงตามหาบัวที่กลายเป็น "พระธาตุ" มาแสดง จากนั้นเปิดเผยว่า หลังจากมีสื่อมวลชน (บางฉบับ) นำเสนอ อาจเป็นการเข้าใจผิด หรือเกิดความคลาดเคลื่อน จึงต้องการออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะลูกศิษย์ทุกคนเชื่อว่า หลวงตามหาบัวเป็น “พระอรหันต์”
      
       "อาตมาเป็นผู้รับผิดชอบการสร้างเมรุ และดูแลรับผิดชอบเก็บอัฐิ ทันทีที่เปิดเตา และดึงหีบออกมา จากนั้นได้ใช้ฝาปิดลงไปทันที เมื่อนำมาเปิดอีกครั้งภายในห้องนอนหลวงตา พบว่าภายในหีบมีอัฐิอยู่ด้านบน มีเถ้าไฟปิดอยู่บางๆ ปะปนอยู่กับเศษก้อนถ่าน หรือเถ้าอังคารเล็กน้อย ส่วนข้างใต้ลงไปจะมีอัฐิชิ้นเล็กๆ ปนอยู่กับเถ้าอังคาร และข้างล่างสุดคือเถ้าอังคาร และเถ้าไฟ เมื่อพิจารณาอัฐินำขึ้นมา 2 ชิ้น คือ ท่อนแขนบนขวา และศีรษะขวา พบว่า อัฐิหลวงตาพระมหาบัวเป็นพระธาตุ เป็นสีปีกแมลงทับ ด้านนอกจะมีลักษณะใส ด้านในจะเห็นเป็นสี..." พระสุลาน กล่าว
      

พระสุลาน ปภัสสโร พระลูกวัดป่าบ้านตาด นำฟันและเส้นผมของหลวงตามายืนยันว่า กลายเป็นพระธาตุ

พระสุลาน ปภัสสโร พระลูกวัดป่าบ้านตาด นำฟันและเส้นผมของหลวงตามายืนยันว่า กลายเป็นพระธาตุ


       นอกจากนี้ ในส่วนเส้นผมของหลวงตามหาบัวที่เก็บไว้กว่า 10 ปี พระสุลานก็ยืนยันหลังการเปิดออกดูเมื่อไม่นานมานี้ว่า เส้นผมของหลวงตากลายเป็นพระธาตุไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนฟันกรามด้านซ้ายที่หลุดออกมาขณะฉันภัตตาหารเมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ก่อนหลวงตาจะละสังขารได้เก็บไว้เหมือนกัน เมื่อเปิดออกมาเริ่มเป็นผลึกพระธาตุเช่นกัน
      
       ขณะที่ พระครูอรรถกิจนันทคุณ หรือพระอาจารย์นพดล นันทโน เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา จ.กำแพงเพชร ก็เชื่อว่าอัฐิหลวงตาจะต้องเป็น "พระธาตุ" เพราะที่ผ่านมาส่วนต่างๆ ของหลวงตาเป็นพระธาตุแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เล็บ ฟัน ผม ขนส่วนอื่น หรือแม้กระทั่งของเหลวในร่างกาย แต่วันที่เปิดหีบเก็บอัฐิออกมาไม่ได้มองดูอย่างละเอียด เพราะสายตาไม่ดี...
      
       ดังเช่นก่อนหน้าที่จะมีการพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัวได้มีศิษยานุศิษย์ขององค์หลวงตาคนหนึ่งได้นำเลือดและน้ำเหลืองที่ได้มาจากการทำความสะอาดบาดแผลนิ้วเท้าของหลวงตามหาบัว ไว้ในโกศขณะที่ยังไม่ละสังขารแล้วนำมาบูชา จนกระทั่งพบว่ากลายเป็นก้อนแข็งคล้ายเม็ดทราย หรือเม็ดน้ำตาลทรายส่องแสงแวววับ
      
       นอกจากนี้ สิ่งที่ยืนยันความเป็นพระอรหันต์ของหลวงตามหาบัวก็คือ “ฟัน” ของหลวงตาที่ “พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก” อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับไปบูชา ก็ได้กลายเป็นพระธาตุ และเป็นก่อนที่หลวงตาละละสังขารเป็นเวลาหลายปีอีกด้วย
      
       อย่างไรก็ตาม สำหรับบรรยากาศภายในวัดป่าบ้านตาด หลังเสร็จสิ้นพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตาพระมหาบัวเป็นวันที่สอง โดยเฉพาะบริเวณรอบจิตกาธาน ยังมีประชาชนและญาติธรรมจำนวนมากในเขต จ.อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง ทยอยมาสักการะเมรุลอยอย่างเนืองแน่น นอกจากนี้ยังมีประชาชนจำนวนมากอีกเช่นกันที่พยายามเก็บเถ้าธุลีที่เชื่อว่าเป็นอัฐิธาตุของหลวงตามหาบัวที่ปลิวออกมาในวันพระราชทานเพลิง โดยใช้กระดาษทิชชู ผ้าเย็น และข้าวเหนียว เช็ดตามบริเวณลานรอบๆ จิตกาธาน บางคนถึงขนาดมุดลงไปหาในร่องน้ำก็ยังมี
      
       ความศรัทธาในองค์หลวงตามหาบัวยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะหลังจากทางวัดได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ลดกลดขนาดใหญ่ที่กางกั้นเอาไว้เหรือจิตกาธานลงมาพร้อมทั้งให้ปลดพวงดอกไม้เพื่อนำไปเก็บรักษา ระหว่างนั้น ประชาชนและศิษยานุศิษย์ที่เคารพนับถือในองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ได้พากันขอเศษชิ้นส่วน ไม่ว่าจะเป็นลวดและเชือกที่มัดพวงดอกไม้ประดับเพื่อนำไปบูชา ขณะที่บางคนนำเอาผ้าเช็ดหน้า ผ้าเย็น กระดาษชำระไปเช็ดกลดเพื่อนำกลับไปบูชาที่บ้าน


       ขณะที่บริเวณกุฏิเดิม ซึ่งเป็นที่เก็บอัฐิธาตุหลวงตาพระมหาบัวนั้น ประชาชนและญาติธรรมจำนวนมากเข้าไปกราบสักการะกันอย่างเนืองแน่น นอกจากนี้ยังมีประชาชนบางส่วนนั่งสมาธิบริเวณหน้ากุฏิ และส่วนใหญ่ยืนยันว่าจะรอ และนั่งสมาธิไปจนถึงวันที่ 11 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่คณะสงฆ์จะแบ่งอัฐิธาตุหลวงตามหาบัวไปยังวัดป่าต่างๆ ตามความตั้งใจของหลวงตาก่อนหน้านี้
      
       อย่างไรก็ตาม ในส่วนของยอดเงินทำบุญผ่าน 53 ตู้เซฟ ยอดเงินที่ทำบุญกับวัด รวมไปถึงเงินโอน เงินเรียกเก็บเช็ค 3 ธนาคาร คือ กรุงไทย, กสิกรไทย และไทยพาณิชย์ ขณะนี้มียอดรวมทั้งสิ้น 400,104,893.23 บาท ขณะที่ยอดบริจาคทองคำน้ำหนักรวม 109 กิโลกรัม 58.15 บาท
      
       ปรากฏการณ์คลื่นมหาประชาชนทั้งไทยและเทศ “นับแสนนับล้าน” จากทั่วสารทิศหลั่งไหลมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน "โดยมิได้นัดหมาย" นับเป็นปรากฏการณ์แห่ง "ศรัทธา" ที่เหนือคำบรรยายที่ประชาชนมีต่อ "พระป่ากู้ชาติ" ผู้เป็น "พระอริยสงฆ์" แห่งยุครัตนโกสินทร์ ผู้มีคุณอเนกอนันต์ “ล้ำค่า” ต่อประเทศชาติและประชาชน ทั้งขณะดำรงชีวิต และแม้กระทั่งละสังขารไปแล้ว ท่านก็ยังเป็น "เนื้อนาบุญ" ให้แก่สรรพสัตว์อย่างไม่สิ้น โดยแท้
      
       กราบแทบเท้าหลวงตาฯ... สาธุ

 

 


Last Updated on Wednesday, 16 March 2011 08:15
 

ค้นหา (พิมพ์คำที่ต้องการค้นหา แล้วกดปุ่ม Enter)

ร้านจักรวาลอ๊อกซิเย่น

Banner

น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

Banner

เข้า Facebook ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ วัดวะภูแก้ว

Banner

แห่เทียนพรรษา 2558

Banner

ฐานิยปูชา 2556

Banner

www.thaniyo.net

Banner

ฐานิยปูชา 2555

Banner

เชิญชม วิดีโอ การแสดงธรรมของ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

วัดป่าสาลวัน

Banner

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

palungdham.com

Banner

ฐานิยปูชา 2553

Banner

สำรวจความคิดเห็น

เหตุผล สำคัญที่สุด ในการเข้ารับการอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ?
 

แบบสำรวจความคิดเห็น

วัดวะภูแก้วควรปรับปรุงเรื่องใดมากที่สุด
 

แบบสำรวจ

พระสงฆ์ในทัศนะของท่าน ?
 

โปรดแสดงความคิดเห็นของท่านได้ที่สมุดเยี่ยม

Banner