Home เรื่องเล่าตอนเข้าค่าย ประสบการณ์การปฏิบัติธรรมของนักเรียนที่วัดวะภูแก้ว ประจำปี 2552
ประสบการณ์การปฏิบัติธรรมของนักเรียนที่วัดวะภูแก้ว ประจำปี 2552
Wednesday, 04 November 2009 04:46


          ข้าพเจ้าเคยมาที่วัดนี้แล้ว และ กลับไปได้อะไรหลายอย่างมาก และ ข้าพเจ้าก็อยากมาอีก แต่วันที่มานั้นเกิดเรื่องไม่ดีกับข้าพเจ้า คือ เพื่อนของข้าพเจ้าได้ไปดื่มเหล้ากันก่อนมา และ ทำให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกันในโรงเรียน ครูจึงไม่ให้เพื่อนของข้าพเจ้ามา ข้าพเจ้าเสียดายถ้าเข้าได้มาอบรมที่วัดวะภูแก้วนี้ เขาคงจะไม่ต้องทำเรื่องแบบนี้ และ พอ มาถึงวัดข้าพเจ้าก็ได้เข้าอบรม และ ส่งบุญไปให้ พ่อ แม่ ญาติ พี่ น้อง ของข้าพเจ้า ตอนนั่งสมาธิข้าพเจ้านั่งได้นานถึง 5 ยก และ อีก 7 ยก นั้น จิตไม่เป็นสมาธิเลย และข้าพเจ้าก็ได้ อดทน กัดฟันสู้ และ ยกที่ 10 นั้น ข้าพเจ้าได้นั่งนานที่สุด คือ เพื่อนไปทานข้าวเที่ยงกันหมดแต่ข้าพเจ้านั่งอยู่จนไม่ได้ทานข้าวเที่ยงเลย ตอนนั้นมันรู้สึกสบายมาก ก่อนมันจะสบายมากนั้น ข้าพเจ้าได้ปวดหลังมากๆปวดขามากๆ แต่หลังความปวดเมื่อยแล้ว มันรู้สึกดีมากเลยครับ ผมอยากให้เพื่อนๆ อดทนนะครับ สู้ๆ แบบผม 

 นายณัฐวุฒิ เพลียขุนทด  ขอบคุณครับ
                                          นายณัฐวุฒิ เพลียขุนทด
                                           ม.4/1 โรงเรียนพระทองคำ

 *************************************************************

 

          การมาวัดวะภูแก้ว ในครั้งนี้ข้าพเจ้าตัดสินใจมาด้วยความเต็มใจ เพราะข้าพเจ้าคิดว่ามาแล้วได้ทำบุญการมาในครั้งนี้ ข้าพเจ้ายอมรับว่าเป็นทุกข์ ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการข่มใจทำสมาธิ แต่การทำสมาธิครั้งนี้ ข้าพเจ้าใช้ความมานะสำเร็จสามารถข่มใจให้อดทน จนเป็นสมาธิได้แม้จะไม่นานก็ตาม แต่ข้าพเจ้าคิดว่า สิ่งเหล่านี้จะทำให้ชีวิตของข้าพเจ้า สงบ มีความสุข มีความก้าวหน้าในชีวิตแน่นอน


          เพื่อนๆ คนใดที่ไม่อยากมาวัดเพราะคิดว่าน่าเบื่อ ข้าพเจ้าอยากให้เปิดใจยอมรับสิ่งดีๆ รับรองชีวิตของเพื่อนๆรับรองจะพบสิ่งดีๆ แน่นอน 5 วัน ของการอยู่วัดไม่นานอย่างที่คิด แค่ทนทุกข์ 5 วัน แต่สุขทั้งชีวิต หรือ คุณหาสุข 5 วัน แต่ทุกข์ทั้งชีวิต เลือกเอา ชีวิตเป็นของเราเอง
 

 นางสาวพรพิมล ปุยสูงเนิน                      ขอบคุณค่ะ
                นางสาวพรพิมล ปุยสูงเนิน
              ม.4/1 โรงเรียนพระทองคำวิทยา

 *************************************************************

ค่ายรด. vs ค่ายธรรม

        สวัสดีครับผมอยากจะบอกจากใจจริงว่า ผมไม่อยากมาที่นี่เหมือนทุกคนนั้นแหละครับ และทุกคนก็รู้ดีว่า เราต้องจำใจมาเพราะครูฝ่ายปกครองเขาบังคับ และ ก่อนที่ผมจะมาที่นี่ ตัวของผมเองนั้นเหนื่อยมาก เพราะว่าพึ่งกลับมาจากค่าย รด. การฝึกทั้งร้อนและหนาว ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว แถมกลับมาก็ ยังเป็นไข้อีก พอกลับมาพักที่บ้านได้ 1 วัน วันที่ 2 ก็ไปโรงเรียนเพื่อไปฟังผลสอบ กลับเจอโชคร้ายเพราะว่าฝ่ายปกครองบอกว่าใครไม่ไปเข้าค่าย จะไม่ให้ผ่าน  แต่ไม่นึกถึงผมเลยเพราะร่างกายมันไม่ไหวแล้ว ก็เลยต้องจำใจไปฉีดยา 2 เข็ม เพื่อที่จะให้ร่างกายหายทันเพื่อที่จะมาเข้าค่ายกับเพื่อนได้ และผมก็รู้อยู่แล้วว่า วัดวะภูแก้วอยู่ที่ไหนเพราะถ้าบอกว่าอำเภอสูงเนิน ผมก็รู้ว่าป่าชัดๆ พอมาถึงค่าย กลับแปลกใจที่ว่า บรรยากาศที่นี่กลับเย็นสบาย พอได้ทำกิจกรรมน่าเบื่อมาก มีแต่นั่งสมาธิ และเดินจงกรม ยิ่งปวดขาอยู่แล้วเลยคุณ2ไปเลยและการมาเข้าค่ายครั้งนี้ผมบอกไม่ถูกหรอกว่า ผมมีสมาธิมากขึ้นหรือลดลงแต่ผมก็ทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่แปลกใจ ขาของผมที่เคยปวดหลังจากกลับจากการฝึก แต่ตอนนี้หายปวดแล้ว ทั้งนั่งสมาธิทุกวัน ทั้งปวดขา ทั้งเจ็บ แต่กลับหายปวดได้ไง


        เปรียบเทียบการเข้าค่าย รด. และ ค่ายธรรม การเข้าค่าย รด. ฝึกหนักเจอทำโทษ ขาดสติ และปวดขามาก และเกิดอารมณ์โกรธ ใจร้อน แต่การเข้าค่ายธรรม ทำให้ใจเย็น สงบ มีสติ และ ทำให้ร่างกายแข็งแรง และมีอารมณ์ที่ดีขึ้นมากครับ เปรียบเทียบกันระหว่าง ค่าย รด. และค่ายธรรมะ ทรมานทั้ง 2 ค่าย แต่ต่างกันตรงที่ว่า ค่าย รด. มีแต่เสริมความทุกข์ แต่ค่าย ธรรมะช่วยลดความทุกข์

 นายชัยชาญ เลื่อนตะคุ

               ขอบคุณครับ
           นายชัยชาญ เลื่อนตะคุ

        โรงเรียนสมเด็จพระธีรญาณมุนี

               3 พ.ย. 2552                  

                                                                                                 

 *************************************************************

 

แด่เพื่อนที่ขาดพ่อ

 

        เราเป็นเด็กไม่มีพ่อ ไม่เคยกอดพ่อ และ ไม่เคยรู้ว่าการมีพ่อเคียงข้างเรานี้เป็นยังไง อย่างไร เพราะพ่อเราเสียตั้งแต่เราอยู่ในท้อง เราจึงมีแม่เพียงคนเดี่ยวที่เลี้ยงเรามาจนถึงทุกวันนี้ แต่เราก็ไม่ค่อยสนใจท่านนัก แต่พอมาวันนี้ วันที่ได้มาเข้าค่ายในวัดวะภูแก้ว ดร.ดาราวรรณ ท่านได้สอนให้เรารู้จักบุญคุณของบิดามารดา ทำให้หนูคิดได้ว่า แม่คือคนที่สำคัญที่สุดของชีวิตเรา

        จากคนที่เคยเถียง เคยด่า เคยทำอะไรไม่ดีกับท่านนั้น ท่านคงเสียใจมาก และ ต่อจากนี้ไปเราจะเป็นคนดีของแม่ เราจะเชื่อฟังคำสั่งสอนของท่าน จะดูแลท่านให้ดีเหมือนที่ท่านดูแลเราเพราะตลอด 18 ปี แม่เลี้ยงเรามาด้วยความรัก และ ความอบอุ่นมาโดยตลอด ท่านเป็นได้ทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน และ เป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุดสำหรับเรา และวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเข้าค่าย

        ดร.ดาราวรรณท่านให้นั่งสมาธิ แล้วฟังเทประลึกถึงบุญคุณของบิดามารดา และ ตอนที่สำคัญที่สุดคือตอนที่ให้นักเรียนกราบลงพื้นแล้วให้นึกว่าพ่อแม่มานั่งอยู่ข้างหน้า ทำให้เราเกิดจินตนาการขึ้นว่าเราได้กอดพ่อ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย และ จะเป็นความทรงจำที่ดีแบบตลอดไปและเราจะพยายามคิดและจินตนาการว่าได้กอดพ่อแบบนี้บ่อยๆและในที่สุดเราก็ได้รู้ว่าพ่อไม่ได้ไปไหนพ่อจะอยู่กับเราตลอดไป

        และสุดท้ายก่อนจะจากกันไปเราอยากให้เพื่อนๆ ที่ไม่มีพ่อไม่มีแม่จงใช้การจินตนาการ หรือ จิตใต้สำนึกแบบเราคิดถึงท่านให้มากๆ  แล้วท่านจะไม่ไปไหนท่านยังอยู่ในใจเรานั้นเอง

        ไม่เชื่อเราลองทดลองดู......      

       
 นางสาวสุกัญญา โฉสูงเนิน

ขอบคุณค่ะ                                             

นางสาวสุกัญญา โฉสูงเนิน
ม.6/1 โรงเรียนสมเด็จพระธีรญาณมุนี
3 พฤศจิกายน 2552

                
                                                                                    
                                                     

 

*************************************************************

 

9 (ก้าว) ที่ต้องเดินต่อไปด้วยกำลังใจ

        การมาอบรมที่วัดวะภูแก้วนี้บรรยากาศดีมาก เหมาะมากแก่การทำสมาธิ ตัวของหนูเองก็เหมือนกับเพื่อนๆ คนอื่นๆ ที่ทำสมาธิได้เพียงแค่เมื่อจบเสียงเทปการบรรยาย หนูเองไม่ได้ซีเรียสกับการนั่งมากมาย ที่เขียนว่า 9 ที่ต้องเดินต่อไปนั้น เป็นเลขเก้า (9) เพราะหนูเริ่มรับรู้ถึงความสงบในยกการทำสมาธิครั้งที่ 9 แต่ก็เหมือนเดิม ทำได้ถึงแค่เสียงบรรยายจบ ต่อมาถึงการทำสมาธิครั้งที่ 10 หนูก็รับรู้ถึงความสงบได้ ครั้งนี้ทำได้นานกว่าเดิมจนเข้ารอบ ต่อมาถึงการทำสมาธิครั้งที่ 11 หนูก็สัมผัสและรับรู้ถึง กำลังใจที่หายไป อันที่จริงมันไม่หายไปไหนหรอก แต่ หนูไม่เห็นเอง กำลังใจที่ว่าคือ พ่อกับแม่ นั่นเอง ต่อมาถึงการทำสมาธิครั้งที่ 12 ครั้งนี้ทำเพื่อ เผื่อแผ่บุญนั่น ไปยังพ่อแม่ ครูอาจารย์ และ สรรพสัตว์ทุกชนิด


        สิ่งที่ได้จากการอบรมพัฒนาจิตครั้งนี้ ไม่ใช่ความปีติ ไม่ใช่นิมิต ไม่ใช่พลังจิตแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ได้คือ กำลังใจ กำลังใจที่จะยืนหยัดสู้ต่อในโลกที่โหดร้ายใบนี้ เพื่อปลายทางที่ฝันไว้


        ขอขอบพระคุณครูอาจารย์ทุกท่านที่พามาอบรมที่วัดวะภูแก้วแห่งนี้ ขอขอบพระคุณท่านคณะครูวิทยากรทุกท่านที่อบรมด้วยเมตตา

 

 นางสาวปวีณา สนองผัน

  ขอขอบพระคุณค่ะ
  นางสาวปวีณา   สนองผัน
  ม.5/2 โรงเรียนสมเด็จพระธีรญาณมุนี
  3/พ.ย./52
                              

                          

*************************************************************

พ่อจ๋า.....ลูกขอโทษ

        เมื่อก่อนครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวที่อบอุ่น แต่พ่อกับแม่ต้องแยกทางกันด้วยเหตุใดดิฉันไม่ทราบ ดังนั้นฉันจึงต้องถูกแยกออกห่างจากพ่อ  แม่ไม่มีเงินพอที่จะเลี้ยงฉันกับน้อง จึง ส่งเราสองคนกลับบ้านนอกที่จังหวัดอุดร อยู่กับตาขี้เหล้าในกระท่อมที่มีแต่หลังคา แต่ตอนนี้ท่านเสียแล้วด้วยโรคมะเร็ง

        เมื่อพ่อเห็นฉันลำบากจึงมารับไปอยู่ด้วย แต่อยู่ได้เพียง 1 เดือน กับอีก 21 วัน พ่อก็ไล่ฉันและ น้อง ออกจากบ้านเพียงเพราะฉันติดต่อกับแม่ แต่ที่พ่อโกรธมากเพราะแม่มาหาฉันและน้องพร้อมกับสามีใหม่ของแม่ มันทำให้พ่อโกรธมาก ในตอนนั้นฉันทั้งโกรธและเกลียดพ่อขึ้นมาทันทีสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ให้อภัยกับพ่อเด็ดขาด เพราะพ่อไม่รักฉันกับน้องถึงกับกล้าไล่ฉันเหมือนหมูเหมือนหมา เหมือนฉันกับน้องไม่ใช่ลูกของพ่อ

        แต่เมื่อฉันได้เข้ามาปฏิบัติธรรมในวัดวะภูแก้วแห่งนี้ ความคิดอคติที่มีต่อพ่อก็หายไปเป็นปริตรทิ้งกลับมีความรู้สึกอยากกอดและบอกรักท่านด้วยซ้ำอยากกราบเท้าท่าน อยากดูแลท่าน ขอแค่เจอท่านสักครั้งก็ยังดี

        วัดวะภูแก้วแห่งนี้ให้อะไรกับฉันมากมาย รู้สึกว่าตนมีสมาธิมากขึ้น ใจเย็นกว่าเดิมมีเหตุผล ที่สำคัญอคติที่มีต่อพ่อหายไป  ขอขอบคุณท่านอาจารย์ ดร. ดาราวรรณ คณะวิทยากร ครูอาจารย์ทุกท่านที่ทำให้ดิฉันรู้สึกสุขทั้งกายสุขทั้งใจเช่นนี้ หากมีโอกาสดิฉันสัญญาว่าจะต้องกลับมาฝึกสมาธิ ณ ที่วัดแห่งนี้อีก ขอขอบคุณค่ะ

หมายเหตุ
- สถานที่บรรยาย ธรรมชาติดี และสวยมากๆ ค่ะ
- หอพักนอนสบาย หลับสนิททั้งคืนเลยค่ะ

 

น.ส.เปรมฤดี เพียรสดับ

                                                       จากลูกที่เคยหลงผิด

                                                      น.ส.เปรมฤดี เพียรสดับ
                                                   ม.4/1 โรงเรียนชุมพวงศึกษา
                                             (เข้าอบรมวันที่  4 – 8 กันยายน 2552)

 

 *************************************************************

Last Updated on Monday, 30 November 2009 07:50
 

ค้นหา (พิมพ์คำที่ต้องการค้นหา แล้วกดปุ่ม Enter)

ร้านจักรวาลอ๊อกซิเย่น

Banner

น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

Banner

เข้า Facebook ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ วัดวะภูแก้ว

Banner

แห่เทียนพรรษา 2558

Banner

ฐานิยปูชา 2556

Banner

www.thaniyo.net

Banner

ฐานิยปูชา 2555

Banner

เชิญชม วิดีโอ การแสดงธรรมของ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

วัดป่าสาลวัน

Banner

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

palungdham.com

Banner

ฐานิยปูชา 2553

Banner

สำรวจความคิดเห็น

เหตุผล สำคัญที่สุด ในการเข้ารับการอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ?
 

แบบสำรวจความคิดเห็น

วัดวะภูแก้วควรปรับปรุงเรื่องใดมากที่สุด
 

แบบสำรวจ

พระสงฆ์ในทัศนะของท่าน ?
 

โปรดแสดงความคิดเห็นของท่านได้ที่สมุดเยี่ยม

Banner