Home เรื่องเล่าตอนเข้าค่าย ประสบการณ์ ของ นักเรียนจาก โรงเรียนจักราชวิทยา ที่เข้าค่ายอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ระหว่างวันที่ 26 - 30 มิถุนายน 2558
ประสบการณ์ ของ นักเรียนจาก โรงเรียนจักราชวิทยา ที่เข้าค่ายอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ระหว่างวันที่ 26 - 30 มิถุนายน 2558
Tuesday, 21 July 2015 03:39

 

ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ  วัดวะภูแก้ว

 


นั่งสมาธิให้แต่สิ่งดี ๆ


           ในวันที่รู้ว่าจะได้มาที่วัดนี้  วัดวะภูแก้ว  ก็รู้สึกตื่นเต้น  ไม่รู้เพราะอะไร คนอื่นๆ หลายคนไม่อยากจะมา  แต่สำหรับหนูแล้ว  เหมือนมีแรงดึงดูดที่อยากจะมา ณ วัดแห่งนี้  ครั้งแรกที่รถขับเคลื่อนมายังในวัดแห่งนี้  รู้สึกดีมากเพราะบรรยากาศที่นี่ช่างดีเหลือเกิน เต็มไปด้วยป่าไม้ธรรมชาติดี ๆ นี่เอง   พอถึงเวลาที่จะสวดมนต์และนั่งสมาธิ   หนูก็คิดว่าจะให้นั่งไม่นานเท่าไร  

  

          คณะวิทยากร ได้บอกว่าถ้านั่งสมาธิเป็นแชมป์  แต่ละยกก็จะได้ของรางวัล  หนูบอกตัวเองว่า มันจะยากอะไร  ลองดูสักตั้ง  หนูก็ทำตามคำแนะนำของวิทยากร


 

           ในแต่ละยก หนูก็พยายามต่อไปเรื่อย ๆ จากที่เคยคิดว่า  นั่งไปก็เป็นการทรมานตัวเอง   แต่พอได้มาที่นี่เหมือนได้ฝึกความอดทน  และพอนั่งไปก็ทำให้สมองโล่งมาก จากที่ปวดหัวอยู่ก็หายเป็นปลิดทิ้ง   และในยกต่อไป   จนถึงยกสุดท้าย หนูก็พยายามทำจิตภาวนานึกถึง พุทโธ ไปเรื่อยๆ ทำแบบนี้ทุกๆ ยก  หนูก็รู้สึกว่าการนั่งสมาธิไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่หลายๆ คนคิด  กลับกันมีแต่ความดีงาม  มีพลังจิต   มีสมาธิมากขึ้น  ก่อนที่เราจะทำอะไรก็มีสตินึกคิดอยู่เสมอว่าอะไรผิดอะไรถูก

  


           สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดคือ  ในคืนสุดท้าย  ยกสุดท้าย   หนูรู้สึกว่าหนูมีความพยายามมากกว่าปกติ  เพราะได้ขึ้นไปบนลานธรรมเป็นครั้งแรก  มันเป็นอะไรที่สงบมาก ๆ  รู้สึกดีมาก ๆ จริงๆ จนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร   หลังจากสวดมนต์เสร็จก็ได้นั่งสมาธิและฟังธรรม  บรรยากาศก็เป็นใจ  ทำให้หนูนั่งได้นานมากๆ  นั่งไปก็มีแต่ความสุข มีปีติที่เกิดขึ้น  มีแต่ความสว่างไม่อยากออกจากสมาธิเลย ถึงแม้ว่าจะมีอะไรหลายๆ อย่างที่จะกวนสมาธิ  หนูก็ไม่สนใจและนั่งต่อไปเรื่อยๆ   หนูภูมิใจมากที่ได้มานั่งภาวนาจิตที่นี่   สิ่งที่หนูต้องการไม่ใช่รางวัล  แต่เป็นการเอาชนะใจตัวเอง และฝึกความอดทน  ผลพลอยได้ก็น่าจะเป็นสมาธิที่ดีขึ้นกว่าเดิม   ไม่วอกแวกง่ายๆ

  


           ขอขอบคุณคณะครูที่โรงเรียนจักราชวิทยาที่พามาที่นี่  และดูแลเป็นอย่างดีมาก  ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องเลย  และขอบคุณคณะวิทยากรทุกๆ ท่าน ที่มาสร้างความสุข ความสนุกและให้คำแนะนำในหลาย ๆ ด้าน  ไม่ว่าจะการทำสมาธิ  การฝึกจดงาน  เทคนิคดีๆ  ที่สามารถไปปรับใช้ได้  และสุดท้าย  หนูขอขอบพระคุณวัดแห่งนี้ที่ทำให้หนูมีสมาธิและความตั้งใจไม่ย่อท้อต่อการเรียน  และได้สำนึกถึงพระคุณของบิดา มารดา หลังจากนี้หนูก็จะมีแต่การสร้างคุณความดี  อย่างที่ท่าน ดร.ดาราวรรณได้บอกว่า “สร้างกรรมดี  หนีกรรมชั่ว”  ชีวิตหนูคงจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่แน่ ๆ

นางสาวพุทธชาติ  สุมาลี
 โรงเรียนจักราชวิทยา  ชั้น  ม.5/2
เขียนไว้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558

  

 

 


โกรธพ่อแม่แต่ลึก ๆ ก็รัก


           ตั้งแต่เกิดมาลืมตาดูโลก   ดิฉันก็ไม่เคยทราบเลยว่า พ่อของตัวเองเป็นใคร หน้าตาเป็นอย่างไร   ตั้งแต่จำความได้ก็อยู่กับตาและยายแล้ว  แม่ก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน   ตอนนั้นยังเด็กมากเลยไม่เคยคิดจะถามเรื่องของพ่อและแม่  พอเริ่มขึ้นระดับชั้นประถม  ยายก็เล่าให้ฟังบ้างว่า  พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่ดิฉันยังไม่เกิด  พ่อไปอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครรู้  ส่วนแม่ได้มีครอบครัวใหม่อยู่ที่จังหวัดนครปฐม   แม่ก็มีน้องชายต่างพ่อคนหนึ่ง  แล้วนำมาฝากยายกับตาเลี้ยง  ค่าเล่าเรียนของดิฉันและน้องชายต่างพ่อ  ตายายเป็นคนออกทั้งหมด  นานๆ ครั้ง ที่แม่จะกลับมาหาที่บ้าน  จนบางครั้งลืมหน้าแม่ตัวเอง  ตอนเด็ก ๆ ดิฉันโกรธแม่มาก  ทำไมต้องทิ้งดิฉันไป  ถึงวันแม่ ไม่เคยได้กราบแม่สักครั้ง ช่วงดิฉันอายุ 12 – 13 ปี   แม่กลับมาบ้าน  ท่านร้องไห้วิ่งเข้ามาจะกอดดิฉัน  แต่ดิฉันกลับเดินหนี

  


           ตอนนี้  ดิฉันรู้สึกผิดมากที่ทำกับแม่อย่างนั้น  ส่วนพ่อดิฉันก็เคยโกรธ  เพราะว่าโดนเพื่อนล้อว่า  ลูกไม่มีพ่อ  จนดิฉันร้องไห้  ตอนนี้ดิฉันคิดได้และมั่นใจแล้วว่าพ่อกับแม่มีพระคุณกับดิฉันมากแค่ไหน   ถึงจะโกรธพ่อแม่  ลึก ๆ แล้วดิฉันรักพวกท่านมาก   แค่น้อยใจพวกท่านที่ทิ้งดิฉันไว้ให้ดิฉันอยู่กับความเหงา  และถึงตายายจะไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ ของดิฉัน  แต่พวกท่านก็ดูแลเลี้ยงดูดิฉันมาตั้งแต่เล็กจนดิฉันโต   พวกท่านให้ความอบอุ่น  อบรมสั่งสอนดิฉันมาโดยตลอด   ดิฉันรักตากับยายผู้มีพระคุณของดิฉันมาก   ขอบคุณวัดวะภูแก้วที่ทำให้ดิฉันได้สำนึกถึงพระคุณของพวกท่านทั้ง 4 คน  พ่อ แม่  ตา ยาย  ขอบคุณมากๆ ค่ะ


นางสาววารี  นานกระโทก
 โรงเรียนจักราชวิทยา  ชั้น  ม.5/2
เขียนไว้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558

 

 

 

ความรู้สึกที่แตกต่างเมื่อเห็นน้ำตาแม่


          ครอบครัวของข้าพเจ้าเป็นครอบครัวที่ไม่รวยไม่จนฐานะพอมีพอกิน  ก่อนที่จะมีข้าพเจ้านั้นแม่เล่าว่าเคยตั้งท้องแล้วแท้งไป   ข้าพเจ้าจึงเป็นลูกคนเดียวและเป็นความหวังของพ่อกับแม่   ตั้งแต่เด็กจนโตพ่อแม่เลี้ยงข้าพเจ้าอย่างสุขสบายมาตลอด  อยากได้อะไรพ่อกับแม่ก็หามาให้   พ่ออยากให้ข้าพเจ้ารู้จักคุณค่าของเงิน   พ่อจะพาข้าพเจ้าไปทำนาทำสวนด้วยและจะบอกกับข้าพเจ้าเสมอว่าให้ตั้งใจเรียน  เรียนให้จบสูงๆ   จะได้ไปมีงานการที่ดีทำ ไม่ลำบากเหมือนพ่อกับแม่   ในตอนนั้นข้าพเจ้าไม่ได้คิดอะไรด้วยความที่ทั้งเหนื่อยทั้งโมโหจึงตะคอกพ่อกลับไปว่าทำไมพ่อไม่ตั้งใจเรียนเอง  ถ้าตอนนั้นพ่อตั้งใจจะลำบากแบบนี้ไหม

  


          ตอนนี้ข้าพเจ้ารู้สึกผิดมาก  ข้าพเจ้าได้มีโอกาสทำสมาธิและพิจารณาตนเอง  ข้าพเจ้าจึงคิดได้ว่าทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าทำลงไปนั้นผิดมาก  ข้าพเจ้านึกถึงตอนที่ข้าพเจ้ากราบแม่   แม่ร้องไห้   กับตอนที่ข้าพเจ้าทำผิดแล้วแม่ร้องไห้มันต่างกันมาก   แม่เคยบอกกับข้าพเจ้าว่าถึงไม่มีใครรักก็มีแม่นี่แหละที่อยู่ข้างลูกเสมอ   แม่พูดพร้อมน้ำตา   กลับไปข้าพเจ้าจะขอโทษแม่และพ่อ

  


          สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าขอขอบคุณคณะวิทยากรและคุณครูทุกท่านที่ทำให้ข้าพเจ้าได้สำนึกก่อนที่จะสายเกินไป  ทำให้ข้าพเจ้ามีสติมากขึ้นและมีความอดทนมากขึ้น


นางสาวธนพร  หมายรอกลาง
 โรงเรียนจักราชวิทยา  ชั้น  ม.5/2
เขียนไว้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558

 


Last Updated on Tuesday, 21 July 2015 08:39
 

ค้นหา (พิมพ์คำที่ต้องการค้นหา แล้วกดปุ่ม Enter)

ร้านจักรวาลอ๊อกซิเย่น

Banner

น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

Banner

เข้า Facebook ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ วัดวะภูแก้ว

Banner

แห่เทียนพรรษา 2558

Banner

ฐานิยปูชา 2556

Banner

www.thaniyo.net

Banner

ฐานิยปูชา 2555

Banner

เชิญชม วิดีโอ การแสดงธรรมของ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

วัดป่าสาลวัน

Banner

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

palungdham.com

Banner

ฐานิยปูชา 2553

Banner

สำรวจความคิดเห็น

เหตุผล สำคัญที่สุด ในการเข้ารับการอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ?
 

แบบสำรวจความคิดเห็น

วัดวะภูแก้วควรปรับปรุงเรื่องใดมากที่สุด
 

แบบสำรวจ

พระสงฆ์ในทัศนะของท่าน ?
 

โปรดแสดงความคิดเห็นของท่านได้ที่สมุดเยี่ยม

Banner